เมนู

เสนาสนะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยปีละ 3 ครั้ง เสนาสนะนั้น ไม่ควรให้
ถือเป็นอันตรามุตกะ ทุกคราวที่ล่วง 4 เดือน หรือให้เสนาสนะใด พวกเจ้า
ของถวายปัจจัยปีละ 4 ครั้ง, เสนาสนะนั้น ไม่ควรให้ถือเป็นอันตรามุตกะ
ทุกคราวที่ล่วง 3 เดือน. เพราะว่า เสนาสนะนั้น จักได้บำรุงด้วยปัจจัยแท้.
ส่วนในเสนาสนะใด พวกเจ้าของถวายปัจจัยมากมายเพียงปี ละครั้ง,
เสนาสนะนั้นควรให้ถือเป็นอันตรามุตกะได้.
กถาว่าด้วยการถือเสนาสนะซึ่งมาในบาลี โดยวันเข้าพรรษาภายในฤดู
ฝน เท่านี้ก่อน.

[การถือเสนาสนะในฤดูกาล]


ก็ขึ้นชื่อว่า การถือเสนาสนะนี้ ย่อมมี 2 อย่าง คือ ถือในฤดูกาล 1
ถือในวัลสาวาสกาล 1.
ใน 2 อย่างนั้น พึงทราบวินิจฉัยในฤดูกาลก่อน ภิกษุอาคันตุกะบาง
พวกมาในเวลาเช้า, บางพวกมาในเวลาบ่าย, บางพวกมาในปฐมยาม, บาง
พวกมาในมัชฌิมยาม, บางพวกมาในปัจฉิมยามก็มี, พวกใดมาในเวลาใด
ภิกษุผู้เสนาสนคาหาปกะ พึงให้ภิกษุทั้งหลายลุกขึ้นแล้วให้เสนาสนะแก่พวกนั้น
ในเวลานั้นเทียว, ขึ้นชื่อว่า สมัยที่มิใช่กาลย่อมไม่มี.
ฝ่ายภิกษุผู้แต่งตั้งเสนาสนะต้องเป็นผู้ฉลาด พึงเว้น ที่ตั้งเตียงไว้ 1 หรือ
2 ที่. ถ้าพระมหาเถระ รูป 1 หรือ 2 รูป มาในเวลาวิกาล,1 พึงบอกท่านว่า
ท่านผู้เจริญ ภิกษุแม้ทั้งหมด เมื่อผมให้ขึ้นตั้งแต่ต้น จักต้องพากันขนของ
ออก, ขอท่านจงอยู่ในที่อยู่ของผมนี่แล. แต่เมื่อพระมหาเถระมากันมาก พึง
ให้ภิกษุทั้งหลายลุกออกแล้วให้ลำดับ.
* วิกาลในที่นี้ น่าจะได้แก่กลางคืน.